แนะนำการใช้งานโมดูล MAX4080 Current Sensor#

Keywords: Current Sense Amplifier IC, Current-to-Voltage Converter, High-Side Current Sensing


▷ คุณสมบัติหลักของไอซี MAX4080 / MAX4081#

  • MAX4080 / MAX4081 (Datasheet) เป็นไอซีวัดกระแส DC และให้เอาต์พุตเป็นแรงดันไฟฟ้า (สัญญาณแอนะล็อก) จัดอยู่ในประเภทวงจร Current-Sense Amplifier
  • ผลิตโดยบริษัท Maxim Integrated / Analog Devices Inc. (ADI)
  • ใช้วัดปริมาณกระแสไฟฟ้า DC ที่ไหลผ่านตัวต้านทานสำหรับวัดกระแส (เรียกว่า Sense Resistor หรือ Shunt Resistor )
  • ใช้กับตำแหน่งการวัดกระแสของโหลดแบบ High-Side Measurement
  • แรงดันเอาต์พุตที่ได้คือ แปรผันตรงกับแรงดัน
    • (Sense Voltage) คือ แรงดันตกคร่อมที่ตัวต้านทาน เมื่อมีกระแสไหล
    • อัตราขขยาย หมายถึง อัตราส่วนของแรงดันเอาต์พุต ต่อแรงดัน
  • แบ่งเป็น 2 รุ่น ได้แก่ MAX4080 และ MAX4081:
    • MAX4080: วัดกระแสที่ไหลได้ในทิศทางเดียว (Unidirectional) และให้แรงดันเอาต์พุตเป็นบวกเท่านั้น
    • MAX4081: วัดกระแสที่ไหลได้สองทิศทาง (Bidirectional) มีขาอินพุตสำหรับแรงดันอ้างอิง (Reference Input A & B) และให้แรงดันเอาต์พุตเป็นบวกและลบได้ (สามารถกำหนด DC Offset ให้แรงดันเอาต์พุตได้)
  • มีตัวเลือกจำแนกตามอัตราขยายคงที่ (Fixed Gain: ) และช่วงแรงดันอินพุต (Full-Scale Sense Voltage Range):
    • MAX408xF: = 5V / V และ = 500mV
    • MAX408xT: = 20V / V และ = 250mV
    • MAX408xS: = 60V / V และ = 100mV
  • ช่วงแรงดันไฟเลี้ยง (Input Voltage Supply): 4.5V ~ 76V
  • ความแม่นเต็มสเกล (Full-Scale Accuracy): ±0.1% (typical)
  • แบนด์วิดท์ (Bandwidth) สำหรับสัญญาณแอนะล็อก-เอาต์พุต: 250kHz (typical)
  • แรงดันออฟเซตอินพุต (Input Offset Voltage): 100μV (typical)
    • แรงดันเอาต์พุตไม่เป็นศูนย์เกิดขึ้นได้ แม้ว่าแรงดันผลต่างแรงดันอินพุตเป็นศูนย์

▷ ขาไอซี MAX4080 / MAX4081 (8 ขา)#

  • Pin 1: RS+ ขาอินพุตกระแส (ฝั่งแรงดันสูงของตัวต้านทาน )
  • Pin 2: VCC แรงดันไฟเลี้ยง
  • Pin 3: NC ไม่ได้ใช้งาน (Not Connected)
  • Pin 4: GND กราวด์ระบบ
  • Pin 5: OUT ขาเอาต์พุตแรงดันแอนะล็อก
  • Pin 6: REF1A ขาแรงดันอ้างอิง (เฉพาะ MAX4081)
  • Pin 7: REF1B ขาแรงดันอ้างอิง (เฉพาะ MAX4081)
  • Pin 8: RS- ขาอินพุตกระแส (ฝั่งแรงดันต่ำของตัวต้านทาน )

การต่อใช้งานขา REF1A / REF1B (เฉพาะ MAX4081)

  • โดยทั่วไป ขา REF1A และ REF1B ของ MAX4081 จะต่อเข้าด้วยกันกับแรงดันไฟฟ้าคงที่ภายนอกเหมือนกัน และแรงดันอ้างอิงที่ได้สำหรับเอาต์พุตจะเป็นครึ่งหนึ่ง เช่น ถ้าต่อขาทั้งสองกับ +5V จะได้แรงดันอ้างอิง +2.5V
  • แรงดันอ้างอิงสำหรับเอาต์พุตใช้เป็นค่ากลาง (Mid-point Value) ของสัญญาณเอาต์พุต ทำให้สามารถวัดกระแสได้ทั้งสองทิศทาง
    • แรงดันเอาต์พุต จะได้เท่ากับแรงดันอ้างอิง ถ้ากระแสที่ไหลเท่ากับศูนย์
    • ถ้ากระแสไม่เป็นศูนย์ และไหลจากขา RS+ ไปยัง RS- แรงดันเอาต์พุตจะเพิ่มขึ้นจากแรงดันอ้างอิง
    • ถ้ากระแสไหลในทิศทางจากขา RS- ไปยัง RS+ แรงดันเอาต์พุตจะลดลงจากแรงดันอ้างอิง
  • เหมาะสำหรับการนำไปต่อกับขาสัญญาณอินพุตของ ADC ที่ต้องการแรงดันอินพุตในช่วงที่เป็นบวกเท่านั้น เช่น 0 ~ 5V ก็ใช้แรงดันอ้างอิง 2.5V
  • แต่ถ้าต่อเข้ากับ GND (แรงดันอ้างอิงเป็น 0) เช่น ถ้าไม่ต้องการวัดกระแสย้อนกลับ จะให้ผลเหมือนกับการทำงานของไอซี MAX4080 ซึ่งไม่มีขา REF1A และ REF1B

 

บล็อกไดอะแกรมของไอซี MAX408x แสดงให้เป็นองค์ประกอบของวงจรที่สำคัญ และความแตกต่างระหว่าง MAX4080 และ MAX4081

รูป: ขาของไอซี MAX4080/4081 และบล็อกไดอะแกรมของวงจรภายใน

รูป: ตัวอย่างการต่อวงจรใช้งานสำหรับไอซี MAX4080

การวัดกระแสได้ทั้งสองทิศทาง: วงจรภายในของ MAX4081 นั้นแตกต่างจากกรณีของ MAX4080 เนื่องจากรองรับการไหลของกระแสได้ทั้งสองทิศทาง และมีการเพิ่มแรงดันอ้างอิงสำหรับแรงดันเอาต์พุต

หลักการทำงานของวงจรภายใน MAX4080 โดยสรุปคร่าว ๆ มีดังนี้

  • ไอซี MAX4080 มีวงจรขยายสัญญาณผลต่างแรงดันอินพุต (Differential Amplifier) และเป็นองค์ประกอบหลักของไอซีนี้
  • กระแสที่ไหลไปยังโหลด ผ่านตัวต้านทาน ทำให้เกิดแรงดันตกคร่อม ระหว่างขา RS+ และ RS- ของไอซี
  • วงจรขยายสัญญาณผลต่างแรงดันอินพุต A1 มีขาอินพุต และ เป็นขา Non-Inverting และ Inverting Input ตามลำดับ เหมือนวงจรออปแอมป์ (Op-Amp) โดยทั่วไป และมีตัวต้านทานอนุกรม และ ต่ออยู่ด้วย ที่ขาสัญญาณอินพุตแต่ละข้าง
  • วงจร A1 มีอิมพีแดนซ์สูงมาก (High Input Impedance) ทำให้กระแสที่ไหลเข้าขา และ น้อยมาก และให้ถือว่า Input Bias Current ของ A1 เป็นศูนย์
  • เมื่อแรงดัน มากกว่า 0V จะทำให้มีกระแสไหลผ่านตัวต้านทาน และไหลออกไปยังทรานซิสเตอร์ Q1 (ชนิด NPN) เข้าที่ขาคอลเลกเตอร์ ดังนั้นจึงถือว่ามีกระแสคอลเลกเตอร์ (ถ้า Q1 ทำงานในโหมดแอคทีฟ)
  • เอาต์พุตของ A1 จะมีการปรับระดับแรงดัน และควบคุมแรงดันที่ขาเบสของ Q1 เพื่อให้ทำงานในโหมดแอคทีฟ
  • เนื่องจากกระแสเบส ของ Q1 มีปริมาณน้อยมาก ดังนั้นกระแสที่ไหลออกจากขาอิมิตเตอร์ ของทรานซิสเตอร์ Q1 จะได้ประมาณ และจะนำไปใช้กับวงจรคัดลอกกระแส (Current Mirror)
  • วงจร Current Mirror จะสร้างกระแส IA2 ตามปริมาณกระแสที่ไหลผ่านทรานซิสเตอร์ Q1 (หรือมีการขยายกระแสด้วยก็ได้) และไหลผ่านตัวต้านทานที่ต่อแบบย้อนกลับสำหรับออปแอมป์ A2
  • วงจร A2 และ A3 ทำหน้าที่ขยายแรงดันและเป็นบัฟเฟอร์ตามลำดับ (มีอัตราขยายคงที่) เพื่อสร้างแรงดันเอาต์พุต

แนวทางการวิเคราะห์วงจรเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างกระแส และ

โดยมีสัญลักษณ์

  • และ : กระแสที่ไหลผ่านตัวต้านทาน และ ตามลำดับ
  • และ : แรงดันที่ขา RS+ และขา RS- ของ MAX408x ตามลำดับ
  • และ : แรงดันที่ขาอินพุตทั้งสอง ( และ ) ของวงจรขยายผลต่างอินพตุ A1

ถ้าให้ (มีค่าใกล้เคียงกันมาก ๆ และประมาณค่าให้เท่ากัน) ก็สามารถเขียนสมการใหม่ได้ดังนี้

เนื่องจาก มีค่าความต้านทานต่ำกว่า หลายเท่า และ (น้อยกว่าหลายเท่า) ดังนั้นในการสร้างสัญญาณเอาต์พุตเป็นแรงดันไฟฟ้าโดย MAX408x จะต้องมีการแปลงกระแสให้เป็นแรงดันไฟฟ้า (Current-to-Voltage Conversion) และมีการขยายสัญญาณด้วย (Signal Amplification)

 

จากตารางการใช้งานไอซี MAX4080 ถ้าเลือกใช้ไอซีที่มีอัตราขยาย 60 มีช่วงแรงดัน ไม่เกิน 100mV และใช้ตัวต้านทาน 100 mΩ หากมีกระแสไหลสูงสุด 1000mA หรือ (1A) จะได้แรงดัน เท่ากับ 0.1V และเมื่อคูณกับอัตราขยาย จะได้แรงดันเอาต์พุต 0.1V x 60 = 6V ในกรณีนี้ จะต้องเลือกใช้แรงดันไฟเลี้ยง VCC ให้สูงกว่า 6V

แต่ถ้าใช้แรงดันไฟเลี้ยง VCC เท่ากับ +5V หรือ +3.3V กระแสโหลดสูงสุด ก็จะต้องลดลง เพื่อให้แรงดันเอาต์พุตไม่เกิน VCC และให้เหมาะสมกับการนำไปใช้กับวงจร ADC เป็นต้น

รูป: ตารางการใช้งาน MAX4080

 


▷ โมดูล MAX4080#

การใช้ไอซี MAX4080 อาจจะไม่สะดวกในการต่อวงจรใช้งาน เช่น การต่อวงจรทดลองบนเบรดบอร์ด และดังนั้นก็แนะนำให้ใช้โมดูล MAX4080 Breakout เช่น โมดูล CJMCU-408 จากประเทศจีน

  • ใช้ไอซี MAX4080SASA
  • ใช้ตัวต้านทาน R_SENSE: R100 หรือ 0.1Ω (±1%, 2W, 2512)
  • การคำนวณหาแรงดันเอาต์พุต:

รูป: ตัวอย่างโมดูล MAX4080 Breakout


▷ การทดลองวัดกระแสโดยใช้ตัวต้านทานเป็นโหลด#

ถัดไปเป็นตัวอย่างการทดลองใช้งานโมดูล MAX4080 โดยใช้ตัวต้านทาน 100Ω เป็นโหลดไฟฟ้า และมีการต่อวงจรทดลองดังนี้

  • วัดค่าความต้านทานที่ใช้เป็นโหลดด้วยมัลติมิเตอร์ได้ 99.3Ω
  • ใช้แหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้าคงที่ VIN วัดได้ 5.2V และต่อผ่านไดโอด Schottky ไปยังขา VCC ของโมดูล MAX4080 และขา GND ของโมดูล MAX4080 กับ GND ของแหล่งจ่าย
  • ต่อขา RS+ เข้ากับ VCC ของ MAX4080
  • ต่อขาด้านหนึ่งของตัวต้านทานกับขา RS- ของ MAX4080 และขาอีกด้านหนึ่งไปยัง GND ของแหล่งจ่าย
  • วัดแรงดันที่ขา RS- หรือ แรงดันตกคร่อมที่ตัวต้านทานได้ 4.703V ดังนั้นจึงคำนวณปริมาณกระแสที่ไหลได้เท่ากับ 4.703V / 99.3 Ohm = 47.36mA
  • วัดแรงดัน ได้เท่ากับ 4.61mV เมื่อนำไปคูณกับค่า Gain = 60 จะได้ 4.61mV x 60 = 276.6mV และวัดแรงดันเอาต์พุตที่ขา VOUT ด้วยมัลติมิเตอร์ ได้เท่ากับ 276.6mV

รูป: การต่อวงจรทดลอง

โดยทั่วไปแล้ว หากกระแสไฟฟามีการเปลี่ยนแปลงปริมาณค่อนข้างช้า ก็สามารถใช้มัลติมิเตอร์วัดแรงดันเอาต์พุตได้ แต่ถ้าปริมาณกระแสเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเชิงเวลา ก็จะต้องใช้วิธี เช่น การต่อเข้ากับ ADC (Analog-to-Digital Converter อ่านและบันทึกค่าด้วย MCU หรือ จะใช้ออสซิลโลสโคปดูการเปลี่ยนแปลงเชิงเวลาของสัญญาณเอาต์พุต เป็นต้น

รูป: การวัดแรงดันเอาต์พุตด้วยออสซิลโลสโคป (วัดค่าเฉลี่ยของสัญญาณเอาต์พุตได้ 279mV)

รูป: ตัวอย่างการวัดสัญญาณเอาต์พุตโดยใช้ MAX4080 ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของกระแสโหลดอย่างรวดเร็ว

 


กล่าวสรุป#

บทความนี้ได้นำเสนอข้อมูลและการใช้งานของไอซีและโมดูล MAX4080/4081 พร้อมตัวอย่างการทดลองวัดปริมาณกระแสไฟฟ้าโดยใช้ตัวต้านทานเป็นโหลดไฟฟ้า โมดูลนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์การใช้กระแสไฟฟ้า โดยใช้การวัดกระแสแบบ High-Side (การวัดฝั่งแรงดันไฟเลี้ยง) รวมถึงการตรวจสอบการใช้พลังงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้ โดยให้เอาต์พุตเป็นสัญญาณแอนะล็อกที่แปรผันตามกระแสที่ไหลผ่านโหลด

บทความที่เกี่ยวข้อง

 


This work is licensed under a Creative Commons Attribution-ShareAlike 4.0 International License.

Created: 2025-04-30 | Last Updated: 2025-05-17